ทำ SEO ขั้นพื้นฐาน Step by Step ตอน 3 Titles

ทำ SEO ขั้นพื้นฐาน ตอนที่ 3 ว่าด้วยเรื่องของการเขียน Titles หรือชื่อเรื่อง

นี่ยังไม่เข้าเนื้อหาของการเขียน หน้าแรก เลยนะ แต่จัดไปแล้ว 2 เรื่อง ถ้าใครอยากหาอ่านย้อนหลัง แนะนำก่อนที่ เริ่มต้นทำ SEO Step by Step

• ตอนที่ 1 การสร้างหมวดหมู่
• ตอนที่ 2 การสร้าง Meta Tags

ต่อด้วยตอนที่ 3 เรื่องนี้ จะมาแนะนำการเขียนหัวเรื่อง หรือชื่อเรื่อง หรือที่รู้จักกันดีว่า Title นั่นแหละ ว่าควรเขียนอย่างไร ให้สามารถนำ บทความ ให้ไปโผล่ที่หน้าแรกของ Search Engine ได้ ส่วนใครที่บอกว่า ทำเว็บต้องมีเมนูสิ ทำไมไม่สอนเรื่องการทำเมนูก่อน มันมีผลกับ SEO ด้วยนะ

จะบอกว่า เมนูนั้น สามารถเอามาจาก ชื่อหมวดหมู่ ได้เลย หรือถ้าไม่มีจริง ๆ ก็อาจจะคัดเอามาจาก Tags ที่ว่าไปแล้วในบทก่อน ๆ ได้เลย โดยที่ คำที่จะใช้ในเมนู จะต้องไม่มี คีย์หลัก เพราะถ้าใส่ไปก็จะทำให้เกิดคำซ้ำ กลายเป็นซ้ำเต็มไปหมด เช่น คีย์หลักว่า กระต่าย เมนูก็จะเป็น การเลี้ยงกระต่าย, สายพันธุ์กระต่าย, โรคที่กระต่ายเป็นบ่อย, อุปกรณ์การเลี้ยงกระต่าย หรือ กระต่าย บลาๆๆ

มีแต่กระต่ายเต็มไปหมด กลัวเขาไม่รู้เหรอ ว่าในเว็บนี้บอกเล่า เรื่องกระต่าย แล้วข้อแย่ ๆ ที่ทำแบบนี้ มันมีอีกข้อนะ เช่น เรามีเมนู วิธีการเลี้ยงกระต่าย ลิ้งไปยังหมวด /howto/ แล้วหนึ่ง แล้วเกิดวันดีคืนดี เขียนเนื้อหาในเรื่อง การเลี้ยงกระต่ายอะไรซักอย่าง เพิ่มขึ้นมาอีก แล้วดันเอาคำเดียวกันนี้ ไปลิ้งในหน้าอื่นที่ไม่ใช่ /howto/ จะเกิดอะไรขึ้น???

กลายเป็น คำเดียวกัน คีย์เดียวกัน แต่ลิ้งไปคนละหน้า ขนาดคนยังงง แล้วคิดว่า search ที่มันคิดเองไม่เป็น มันจะไม่งงเหรอ ผมถึงเจาะจงแต่แรกว่า ให้วิเคราะห์ดี ๆ ก่อน เพราะเมื่อทำไปแล้ว

ลิ้งคำไหนไปหน้าไหน ก็จะต้องใช้คำนั้นไปหน้านั้น อย่างถาวร

จะเปลี่ยนใจแบบ โลเล ไม่ได้ ยกเว้นว่า มันดันอันดับไม่ได้จริง ๆ ถึงจะต้องมาเปลี่ยน url ใหม่ ซึ่งอันนั้น เอาไว้บทเรียนหน้าค่อยพูดกัน ส่วนตอนที่ 3 นี้จะว่ากันด้วยเรื่องการเขียน title ของดเรื่อง การทำเมนู ไปก่อน แต่ถ้าถามกันมามาก ก็จะเขียนแทรกให้ทีหลัง นะจ๊ะ

ทำ SEO ขั้นพื้นฐาน กับการเขียน Titles ที่ดี

อย่างที่เรารู้ เราจัดหมวดหมู่เอาไว้แล้ว เรามี tags กระจายไว้เต็มไปหมดด้วยคำ ที่เกี่ยวข้อง ที่น่าจะทำอันดับได้ ทีนี้ การเขียนเนื้อหา มันจะหมายถึง การนำคีย์เวิร์ดหลัก มาประกอบกับ หมวดหมู่ และ คำค้น เรียกง่าย ๆ ว่า Main Keyword + Categorie + Tag (หรือคำอื่นที่เป็นส่วนขยาย) นั่นแหละ

เช่น เรามี คีย์หลักว่า “กระต่าย” เรามีคำว่า “วิธีการเลี้ยง” เป็นชื่อหมวด ใน title ของบทความ เราก็อาจใช้คำว่า “กระต่าย วิธีการเลี้ยง+ในกรง” หรือ “วิธีการเลี้ยงกระต่าย+ในกรง” ก็ว่ากันไป แต่ถ้าอยาก ทำให้ Yoast SEO ติดไฟเขียว แนะนำคำแรกที่เสนอไป

เมื่อได้ชื่อเรื่อง ที่เป็น H1 มันก็ง่ายที่จะเขียนต่อ เราสามารถเขียนได้ หลายเรื่อง ในคีย์เวิร์ดที่ ใกล้เคียงกัน เช่น วิธีการเลี้ยง(ในกรง) / วิธีการเลี้ยง(แบบปล่อย) / วิธีการเลี้ยง(ในบ้าน) บลา ๆ ถ้าเนื้อหาสั้น ยังไงก็ไม่อยากให้รวมเป็นเรื่องเดียว

พยายามหา เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ใส่เข้าไปเพิ่ม ให้ใกล้เคียง 1000 คำ จะดีที่สุด เช่น เพิ่ม h2 ในเรื่องของ เทคนิคการเลี้ยงให้กระต่ายรัก คุ้นเคย หรือ ทริกการฝึก เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้มันมีข้อมูล ที่น่าสนใจมากขึ้น

แทรกหัวข้อย่อย เป็นประโยคคำถาม

และให้คิดถึง ความต้องการจริง ของผู้ใช้ แนะนำให้ควรแทรกเป็น H2 เข้าไป แต่อย่ามากเกิน ประมาณ 2-3 หัวข้อก็เกินความจำเป็นแล้ว เพราะเรื่องจริงที่เกิดขึ้นคือ หากเราอยาก เลี้ยงกระต่าย ในห้องนอน เราควรจะรู้อะไรบ้าง อย่างแรกคือ ฝึกให้น้อง อึ ฉี่ ยังไง การให้อาหาร ควรเป็นแบบไหน รวมไปถึง การเล่นกับน้อง และต้องระวังเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่ว่า ปล่อยของไปหมดในหน้าเดียว พอจะเขียนเรื่องคล้ายกันอีกที หมดมุก ไอ้แบบนี้ก็ไม่ไหว

พยายามกั๊ก ๆ เอาไว้บ้าง อย่าบอกหมด รวมไปถึง ซอยเรื่องถี่เกินไปก็ไม่ควรทำเช่นเดียวกัน

เพราะบางคน เขาอยากจะอ่านในครั้งเดียวจบ (อ่านนาน ๆ) แต่พอกดเข้าไป ต้องตามไปอ่านหน้าโน้นที หน้านี้ที กลายเป็นจะกลับไปเรื่องเดิม ก็ไปไม่ถูก เปิดปิด ๆ อยู่แบบนั้น ค่า Bounce rate ก็สูง สุดท้าย หาข้อมูลที่ต้องการไม่ได้ ก็ออกไปไม่เข้ามาอีกเลย

ทางเดียวที่จะทำให้ บทความ นั้นมีคุณภาพคือ ให้เขาอยู่เกิน 1 นาที และให้มี action เล็กน้อย เช่นการกดปุ่ม เพื่อเลื่อนไปยังเนื้อหาที่ต้องการ (การสร้าง สารบัญ หรือปุ่ม Named Anchor เพื่อวิ่งไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ในหน้าเดิม) หรือลดจำนวนลิ้งที่ออกจากหน้านั้น ให้น้อยลง

บทความ 1 เรื่อง หากจำเป็นต้องมีลิ้งออก ไม่ว่าจะไปหน้าอื่น หรือเว็บอื่น ก็ไม่ควรมีรวมกันเกิน 2 แห่ง (ไม่นับเมนู ส่วนบนหัว title รวมไปถึง sidebar และ footer)

เห็นไหมว่า เมื่อเราตั้งชื่อหมวดไว้ ตั้ง tag ไว้ เรามีคีย์เวิร์ดที่ต้องการ เราแค่ จับเอาทุกอันมาทำเป็นชื่อเรื่อง หรือชื่อ Title ให้เหมาะสม ทีนี้ก็ง่ายที่จะเขียนบทความให้ได้อันดับ

สุดท้ายก็จะเป็นการแทรก คำที่ใช้เป็นหัวข้อย่อย หรือ H2 (พยายามแทรกคำให้เป็นประโยคคำถาม) ยิ่งนำคำใน title มาใช้ และแทรกส่วนขยายให้เป็น long tail keyword ด้วยได้จะยิ่งดีมาก ๆ

ยกตัวอย่างเช่น titel = การเลี้ยงกระต่ายในกรง ก็อาจแทรก h2 ที่เป็นหัวข้อย่อยเข้าไปว่า เลี้ยงกระต่ายในกรงอย่างไรให้น้องเชื่อง (เพราะการเลี้ยงในกรง จะไม่ค่อยเชื่อง หรือร่าเริง มีความสุขเท่ากับเลี้ยงปล่อยเล่นในห้อง)

ก็จบสำหรับตอนที่ 3 นี้ ที่ว่าด้วยเรื่องของการเขียน Titles สำหรับตอนหน้า จะเป็นเรื่องอะไรนั้น รอติดตามชมกันต่อเลย และเชื่อแน่ว่า ผ่านมา 3 ตอน ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้ แล้วเริ่มทำตาม ก็คิดว่า คุณได้พื้นฐานที่ดีมาในระดับหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็แค่ ต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่า คีย์หลักอะไร(Main Keyword) คีย์รองที่จะใช้เป็นชื่อหมวด(Categories) หรือคำค้น(Tags) และหัวข้อย่อย ๆ ที่สามารถเอาคีย์เวิร์ดเหล่านี้มากระจาย + ด้วยประโยคคำถามเช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร บลา ๆ มาใช้

นี่เป็นการวางโครงสร้างให้กับเว็บได้อย่างถูกต้อง และเป็นพื้นฐานของการทำ SEO ที่จำเป็นต้องเรียนรู้

ที่เหลือก็แค่ คิดหาคำมาใช้ ถ้าคิดอะไรไม่ออก Google Trends คือคำตอบจ้า

แล้วพบกันในตอนที่ 4