แนะนำวิธีการเตรียมพร้อมรับมือกับ โควิดโอไมครอน

จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ที่ในปัจจุบันเริ่มจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อลดลงเป็นลำดับ

อีกทั้งการจัดการเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนก็เริ่มจะลงตัว และเริ่มมีการเปิดใจที่จะรับวัคซีนเพิ่ม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกคนจะสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ แต่สิ่งที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันมาอาจจะเข้าสู่สถานการณ์เดิมเพราะตอนนี้มีโควิด-19 โอไมครอน (Omicron) เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถจะระบาดได้อย่างรวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา

อาการเบื้องต้นเมื่อโอไมครอนเข้าสู่ร่างกาย

1. จะมีอาการไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัวอยู่แค่ 1-2 วัน
2. สำหรับโอไมครอนจมูกยังสามารถได้กลิ่นและมีการรับรสได้ปกติ
3. สำหรับคนที่รับเชื้อโอไมครอนจะไม่ค่อยมีไข้ หรือจะไม่แสดงอาหาร
4. จะมีอาการของร่างกายอ่อนล้า และปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว
5. จะมีอาการไอเล็กน้อย และมีการเจ็บคอระคายคอ
6. โอไมครอนจะส่งผลให้มีอาการยังไม่ชัดเท่าสายพันธุ์อื่น
7. สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ อาจจะมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อโอไมครอน
8. อาการโดยรวม เบื้องต้นมักพบว่าไม่รุนแรง สามารถรักษาที่บ้านได้

สำหรับสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งจะเป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดได้ง่ายและไม่ค่อยจะแสดงอาการ จึงควรจะต้องมี เครื่องวัดไข้ microlife ติดไว้ที่บ้าน หรือจะพกพาไปเที่ยวได้ทุกที่ สิ่งที่ทุกคนจะสามารถทำได้คือการติดตามข่าวสาร และแนวโน้มที่จะมีโอกาสติดเชื้ออหรือไม่สำหรับประชาชนหลาย ๆ คนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกปัจจุบันนี้ก็มีวัคซีนเพียงพอต่อการให้บริการกับประชาชน ลควรจะมีการฉีดให้ครบ 2 เข็ม และมีการกระตุ้นภูมิในเข็ม 3 อีกด้วย

การเตรียมพร้อมรับมือ โควิดโอไมครอน

1. สำหรับการรับมือกับโควิดโอไมครอนเบื้องต้น ควรจะต้องมีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ พกติดตัวตลอดเวลา ซึ่งแมสราคาส่ง และเจลแอลกอฮอล์ก็หาซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์ หรือร้านขายยา หรือแหล่งขายส่งที่มีความน่าเชื่อถือ
2. ควรจะต้องมีการรับวัคซีนป้องกันหรือเสริมภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสโควิด19 และจะต้องมีการเพิ่มเติมวัคซีนในเด็กอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ซึ่งในปัจจุบันยังมีประชาชนหลายกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนเข็มแรก ซึ่งควรจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม
3. ควรจะต้องมีการให้ความรู้เรื่องวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบัน ถึงแม้ประสิทธิภาพ ต่อโอไมครอนจะลดลงบ้าง แต่ก็จะเป็นการช่วยลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้ ซึ่งสำหรับการเสริมภูมิควรจะต้องมีการฉีดวัคซีนเข็ม 3
4. จำเป็นจะต้องมีการวินิจฉัยสายพันธุ์โอไมครอนอย่างรวดเร็ว เพื่อควบคุมการระบาดและป้องกันการหลุดรอดเข้ามา เพราะจะมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและต้องมีทีมที่พร้อมจะเข้าไปควบคุมดูแล ไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น
5. การป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ยังมีความจำเป็นต้องใช้แนวทางการดำเนินชีวิตแบบ New Normal และต้องทำอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือใส่หน้ากากอนามัย และต้องกำหนดระยะห่างเพื่อลดการติดเชื้อได้มากที่สุด

การเตรียมพร้อม ต้องให้ทุกคนเข้าใจ ใช้ความรู้มากกว่าความเชื่อ สร้างความรู้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีความโปร่งใส และทุกคนจะต้องเคร่งครัดรักษาระเบียบวินัย จะช่วยลดการระบาดของโรคได้อย่างแน่นอน

อุปกรณ์ทางการแพทย์และยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ที่บ้าน

1. ยาบรรเทาปวดลดไข้ จะเป็นยากลุ่มชนิดแรกที่จะต้องมีติดตู้ยาที่บ้านไว้เลยโดยการรับประทานยาแอสไพริน หรือพาราเซตามอล ไม่ควรทานติดต่อกัน 5 วันและควรจะทานยาห่างกันเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง
2. พลาสเตอร์ยาสำหรับใช้ปิดแผลสดเพื่อป้องกันติดเชื้อ และสิ่งสกปรกเข้าไปในแผล นอกเหนือจากนี้ก็ควรจะมี ยาสำหรับทำแผล แอลกอฮอล์ล้างแผลทำความสะอาดแผล และเบตาดีนสำหรับใส่แผลสด
3. เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นอีกสิ่งจำเป็นสำหรับในยุคของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ซึ่งไม่เพียงจะมีไว้ใช้ที่บ้าน แต่ยังจะต้องพกติดตัวไปด้วยทุกที่ ซึ่งเป็นหนึ่งอุปกรณ์เบื้องต้นที่จะใช้ในการเตรียมรับมือกับโอไมครอน
4. ยาแก้ปวดท้องหรือท้องเสีย จะเป็นยาธาตุน้ำแดง และยาธาตุน้ำขาว ควรจะมีไว้ในขนาดไม่ต้องขวดใหญ่มาก เพราะอาจจะใช้ไม่ทัน หรือหมดอายุไปเสียก่อน เชื่อว่าจะต้องมีเด็ก ๆ ที่มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย หรือท้องผูกกันอย่างแน่นอน
5. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร สำหรับหลายคนที่มักจะมีอาการท้องอืด มีลมในกระเพาะ หรืออาหารไม่ค่อยย่อย เพื่อลดอาการอึดอัด จะมีติดตู้ยาไว้ด้วยก็จะช่วยได้เยอะ หรือสำหรับเด็ก ๆ ที่ชอบกินขนมและน้ำอัดลมเยอะก็ช่วยได้
6. หน้ากากอนามัย ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นที่จะต้องมีติดตัวไว้ทุกที่ทุกเวลา เป็นอุปกรณ์ที่จะต้องมีในชีวิตประจำวันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิดโอไมครอน ที่จะมีการแพร่ระบาดได้ทางลมหายใจได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น
7. เครื่องวัดอุณหภูมิ omron อุปกรณ์สำคัญที่จะเป็นต้องมีติดบ้านไว้เลย เมื่อมีอาการป่วยเป็นไข้ จะใช้วัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้น และสามารถจะใช้คาดเดาอาการไข้ได้ หากมีไข้สูงผิดปกติจะได้รีบนำส่งโรงพยาบาล
8. เครื่องวัดความดันโลหิต ก็เป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่ควรจะมีติดบ้านไว้ สำหรับครอบครัวที่มีผู้ป่วยที่จะต้องมีการจ่ายยาอยู่เป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามอาการได้อย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดอาการรุนแรง และเป็นอันตรายต่อไปได้
9. เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด จะเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก ๆ สำหรับการติดตามระดับของน้ำตาล สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน เพื่อที่จะได้ควบคุมให้อยู่ในระดับคงที่ ไม่สูงหรือต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะมีโอกาสจะเสียชีวิตได้

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดโอไมครอน ซึ่งมีการวินิจฉัยออกมาแล้วว่าจะไม่ค่อยแสดงอาการ และจะสามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว หากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีก็อาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นสิ่งที่หลาย ๆ คนจะสามารถเตรียมรับมือโควิดโอไมครอนได้ และจะต้องไม่ปล่อยให้การ์ดตก คือจะต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัย ละเว้นพื้นที่เขตชุมชน หรือบริเวณที่เป็นแหล่งชุมชนเพื่อเป็นการป้องกันการรับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง

Shopee 2.2 Cashback Sale คืน คอยน์ คุ้ม ช้อปรับเงินคืนสุดคุ้มค่าไปกับขบวนสินค้าจากแบรนด์ดังมากมาย พบกับโปรโมชั่นโค้ดรับเงินคืน 15% สินค้าลดราคาพิเศษ Flash Sale 9.- พร้อมให้คุณมาเก็บโค้ดส่งฟรี* ขั้นต่ำ 0.- เริ่มช้อปพร้อมกันได้ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. – 1 ก.พ. นี้เท่านั้นที่ Shopee Thailand