รู้จักมณีแดง คืออะไร รักษาโรค และต้านแก่ได้จริงไหม

มณีแดง รักษาโรค จากข่าวหลายสำนักลงเรื่องนี้กันครึกโครมว่า เป็นยาต้านแก่ และรักษาโรคได้ ที่คนไทยค้นพบเป็นชาติแรกของโลก แถมสรรพคุณสุดเจ๋ง ชลอแก่ได้ผลดีมาก

และความคืบหน้าล่าสุดนี้ระบุว่า เป็นยาที่ได้ผลจริง โดยหมอใช้เวลาทดลองกับลิงแสมยาวนาน 1 ปี ก่อนจะนำมาใช้กับคน หวังผลการรักษาความแก่ และโรคอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยติดเตียง และโรคพากินสัน

มณีแดง คืออะไร เป็นยาหรือไม่

ตัวที่ใช้สำหรับรักษาโรค ที่ชื่อว่า มณีแดงนั้น จริง ๆ แล้วก็คือ ยีน ชนิดหนึ่งของมนุษย์ มีหน้าที่ทำให้ DNA แข็งแรงขึ้นกว่าปกติ เพราะผลพวงจาก ความชรา ของสิ่งมีชีวิต จึงทำให้ DNA ถูกทำลายและ อ่อนแอลงเรื่อย ๆ จึงมีการคิดค้นวิธีที่จะทำให้ โมเลกุลพิเศษ มีความสามารถที่จะเข้าไปปกป้อง DNA นั้นไม่ให้ ถูกทำลาย หรือ ชลอ การเสื่อมสลายของ DNA ให้ช้าลง

ผู้วิจัยคือ ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าทีมวิจัย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ได้ตั้งชื่อภาษาอังกฤษตามหน้าที่ของมันว่า “REjuvenating DNA by GEnomic stability Molecules” หรือ เรียกชื่อย่อสั้น ๆ ว่า RED-GEMs (เรดเจม) ซึ่งมีความหมายว่า “มณีแดง”

โดยการ ทดลอง ในครั้งแรกใช้ในห้องปฏิบัติการ และทดลองในหนูทดลอง ภายหลังพบว่า สามารถสร้างข้อต่อดีเอ็นเอ ทำให้เซลล์ที่ชราแล้วกลับมามีรูปร่างและทำงานเหมือนเซลล์ปกติได้ และทดลองในลิงต่ออีกจนได้ข้อสรุป เตรียมจะทดลองกับมนุษย์ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี

มณีแดง ยาต้านแก่ ได้ผลจริงหรือไม่

คณะผู้วิจัยได้ค้นพบรอยแยกของดีเอ็นเอ ซึ่งลักษณะของ ดีเอ็นเอ จะเป็นสายโพลิเมอร์ 2 เส้นจับกันเป็นเกลียวคู่ เวลาทำงาน ดีเอ็นเอเกลียวคู่ นี้จะต้องแยกออกจากกัน ทำให้เกิดแรงบิดและถูกทำลายได้ง่าย การที่ดีเอ็นเอถูกทำลายจากแรงบิดนี้ เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เซลล์แก่ลง

รอยแยกของดีเอ็นเอ ที่ค้นพบใหม่นี้จะช่วยลดแรงบิดลง และปกป้องไม่ให้ดีเอ็นเอถูกทำลาย คล้ายกับรอยแยกรางรถไฟ ที่ช่วยปกป้องไม่ให้รางรถไฟผิดรูปจาก ความร้อน โดยในเซลล์ที่ชราจะมีรอยแยกของ ดีเอ็นเอ น้อยกว่าเซลล์หนุ่มสาว ดังนั้น ดีเอ็นเอของคนแก่ ถึงถูกทำลายมากกว่า

คณะผู้วิจัยได้ทดสอบโดยฉีด เข้าไปที่ช่องท้องของหนูทดลองที่ชราแล้ว พบว่าสามารถสร้าง ข้อต่อดีเอ็นเอ ได้ สามารถ ย้อนวัย หนูที่มีเซล์ชราให้กลับมามีรูปร่างและการทำงานเหมือนเซลล์ปกติ เหมือน หนูหนุ่มสาว หนูชรา มีความจำดีขึ้น และคล่องแคล่ว ว่องไวขึ้น

นอกจากนี้ยังพบว่า แผลไฟไหม้ ในหนูทดลองที่ ชรา หายเร็วขึ้นด้วย โดยผู้วิจัยได้ตรวจวัดจำนวน เซลล์ชรา, การทำหน้าที่ของตับ, ความทรงจำ, พังผืดของตับ, และโปรตีนอื่น ๆ ในตับ และในสมอง พบว่าทุกค่าที่หนูชราที่ได้รับ “มณีแดง” มีสภาพร่างกายย้อนเวลากลับเป็นเหมือน วัยหนุ่มสาว

แสดงศักยภาพของ ยามณีแดง ในการประยุกต์ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการสะสมสิ่งผิดปกติต่าง ๆ เช่น อมัลลอยใน โรคสมองเสื่อม จากอัลไซเมอร์ หรือ ปอดเป็นพังผืดจากการติดเชื้อโควิด หรือการมีเส้นเลือดแข็งจากการมีไขมันสะสมตามผนังหลอดเลือด

มณีแดง มีประโยชน์อย่างไร

จากงานวิจัยในต่างประเทศ ยังไม่มีงานใดที่มีคุณสมบัติความสามารถในการ ย้อนวัย ได้สมบูรณ์เท่ากับ “มณีแดง” ที่นักวิจัยไทยค้นพบ ในอนาคตนั้นอาจจะมีการปรับ โครงสร้าง และวิธีการให้ยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย เช่น ทดสอบการให้โดยวิธีสูดดม หรือการฉีดเข้าเส้น และ ประโยชน์ที่ค้นพบได้นั้นมีหลายด้าน ดังต่อนี้

• รักษาโรค ที่มีกลไกมาจากเซลล์ เนื้อเยื่อ และ อวัยวะเสื่อมสภาพ ที่พบใน คนชรา หรือ ชราเร็ว จาก โรคบางชนิด เช่น เบาหวาน โดยในปัจจุบันยังไม่สามารถ รักษา ให้หายขาดได้ เช่น สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ หัวใจวาย ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดแข็ง และการเสื่อมสมรรถภาพใน อวัยวะต่าง ๆ
• รักษาโรคที่อวัยวะเสื่อมสภาพ จากการทำลายจากสิ่งแวดล้อม เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ปอดพังจากบุหรี่ ตับสมองพังจากสุรา ไตพังจากสารพิษ
• เสริมสมรรถภาพของคนชรา ให้มีศักยภาพทางกาย รูปร่างหน้าตา เท่ากับคนหนุ่มสาว
• อาจใช้ ป้องกัน และ รักษามะเร็ง ได้ โดยการแก้ไขความชรา ของ เซลล์เม็ดเลือดขาว ที่มีหน้าที่ทำลาย เซลล์มะเร็ง และป้องกันมะเร็ง จากการลดโอกาสเกิดการแตกทำลายของ ดีเอ็นเอ อันนำไปสู่การกลายพันธุ์ของยีน
• ใช้ชะลอการเสื่อมของร่างกายในเด็ก ที่มีความผิดปกติของ ยีนซ่อมแซมดีเอ็นเอ
• ใช้เสริมความงาม
• ใช้เพิ่มผลิตผลทางการเกษตร
• ใช้ป้องกันความพิการแต่กำเนิด

อ้างอิงข้อมูลเรื่อง “รู้จักมณีแดง” จาก : tnnthailand.com/news/social/94145/

การใช้ยามณีแดงในอนาคต

ทีมวิจัยคาดว่า ในขั้นตอนการทดลองกับสัตว์ใหญ่นั้น อาจใช้เวลาประมาณ 1 ปี ก่อนที่จะเริ่มทดลองใช้กับ ผู้ป่วย เบื้องต้นนั้นได้ตั้งเป้าหมายว่า ต้องเป็นมากกว่า ยารักษา ความแก่ และต้อง รักษาโรคอื่น ได้ด้วย โดยเฉพาะ โรคอัลไซเมอร์ พังผืดในปอด โรคพาร์กินสัน รวมไปถึงการรักษาโรคหัวใจ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่าง การทำวิจัย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ศ.นพ.อภิวัฒน์ ยังบอกอีกว่า สำหรับรูปแบบการใช้งานของยามณีแดง ที่จะนำมาใช้กับคนนั้นทีมวิจัยได้กำหนดไว้ 2 รูปแบบคือ การฉีด หรือการสูดดม เพื่อให้เกิดความปลอดมากกว่าการฉีดเข้าช่องท้อง ในเบื้องต้นหากวิจัยเสร็จสิ้นจะใช้กับคนแก่หรือกลุ่มผู้สูงวัยที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาทางเร่งด่วน จากทีมแพทย์ก่อน เนื่องจากอาจจะยังมีข้อจำกัดในเรื่องการผลิต และผลข้างเคียงอื่น ดังนั้นในระยะแรกหากทำการวิจัย และพัฒนาตัวยาได้สำเร็จแล้วอาจจะให้กับผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยที่เป้นอัลไซเมอร์ เพื่อให้พวกเขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ส่วนในอนาคต อาจจะมีการพิจารณาใช้กับ คนแก่ อายุ 60 ปี ขึ้นไป ที่อยากกลับมามีกำลังเหมือนคนหนุ่ม หรือใน ผู้หญิง ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไปซึ่งอยู่ใน วัยหมดประจำเดือน แล้วแต่ยังอยากมีบุตร

ทั้งนี้ทีมวิจัยคาดหวังหากทำการวิจัยสำเร็จ จะกลายเป็นยา ที่ช่วยให้คนแก่ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ