เคยเขียนไปแล้วเรื่อง Plugin สำหรับการเร่งความเร็วให้เว็บ WordPress ระหว่าง Nitropack กับ wp-rocket ควรใช้อะไรดีสุด
ทดสอบเท่าที่พอจะทำได้ โดยเว็บก็เป็น WordPress ทั้งหมด รวม 4 เว็บ (ส่วนเว็บนี้ใช้ Nitropack แบบฟรี) ส่วนเจ้าตัว wp-rocket มันไม่มีตัวฟรี เลยต้องจัดแบบเสียเงินเอา
และจากที่ทำการทดสอบมาประมาณ 2 เดือน สรุปได้ว่าการใช้งานนั้น ดีพอกัน แต่มันเหมาะกับเว็บคนละประเภท แน่นอนฟันธง
Nitropack กับ wp-rocket ตัวไหนดีกว่ากัน
จาก 2 เดือนที่ทดสอบ ด้วยตัวเอง และใช้ browser เปลืองมาก คือ Google Chrome กับ Microsoft Edge ทดสอบแบบปกติและ Private รวม 4 เว็บผลปรากฏว่า มันใช้งานดีพอกัน และมันเหมาะกับโครงสร้างเว็บต่างกันมาก
สิ่งที่ทำได้
- ฟรี / จ่ายเงิน
- แทรกลิ้งผู้พัฒนาในหน้าเว็บ
- cache ทั้งหน้า
- cache เฉพาะหน้า
- cache woocommerce
- CDN
- Ads หรือบริการของบุคคลที่ 3
- จำกัด ID
- Page Speed
NitroPack
- มีทั้งแบบฟรี และ เสียเงิน
- มี (ต้องแทรก code เพื่อลบออกเอง)
- ทำได้
- ทำไม่ได้
- ทำได้
- ฟรีในระบบ
- cache แหลก
- ไม่จำกัด จนกว่า BW จะเต็ม
- ดีหมด ยกเว้น CLS จะสูง
(ตัวเสียเงินอาจแก้ปัญหานี้ได้)
wp-rocket
- จ่ายเงิน
- ไม่มี
- ทำได้
- ทำได้
- ทำได้
- จ่ายเงินซื้อเพิ่ม
- cache เฉพาะไฟล์ได้ (defer เพิ่มเติม)
- จำกัดต่อ 1 เว็บเท่านั้น
- ทุกอย่างดีหมด
Nitropack เร่งความเร็วเว็บได้ดีแค่ไหน
ไม่ได้ทดสอบกับรุ่นเสียเงิน (ตัวเสียเงินอาจทำได้ดีกว่าก็ได้) ความคิดเห็นส่วนตัวคือ
- NitroPack เหมาะกับเว็บ e-commerce ที่ไม่ติด Adsense และ Script อื่นๆ นอกจาก plugin ที่ลงตามความจำเป็น (คือไม่ควรมี Script รันจากบุคคลที่ 3 มากๆ เพราะมัน cache แหลกลาญ ads อาจแสดงซ้ำและไม่อัพเดท)
- NitroPack ตัวฟรีมี Credit บังคับแปะไว้ท้ายเว็บ มันจะผลุบๆ โผล่ๆ ทำให้เว็บยาวขึ้นแบบซ่อนป้าย link เอาไว้รกๆ ตรงนี้ต้องลง plugin แทรก code js เพื่อไปทำให้ส่วนนี้หายไป แต่ใครไม่เอาออกก็ได้
- pagespeed เร็วมาก ค่าอื่นๆ ต่ำหมด แต่ CLS สูง (ตัวฟรีแก้ไม่ได้ ต้องใช้ตัวเสียเงิน)
- ข้อดีอีกอย่างคือ ไม่จำกัดเว็บ ลงได้เรื่อยๆ จนกว่า BW จะเต็ม ถ้าเต็มก็ลงเพิ่มไม่ได้
Code ที่ใส่เพื่อซ่อนเครดิตของ nitropack ด้านล่างนี้ มันไม่มีผลต่อความเร็วเว็บ ใส่เพื่อซ่อน Credit ของผู้ผลิตเท่านั้น (ตัวเสียเงินอาจไม่จำเป็นต้องใช้ และไม่รู้ผมไม่ได้ลองตัวเสียเงิน)
ก่อนใส่ code ด้านล่าง ต้อง download plugin ที่ชื่อว่า “Simple Custom CSS and JS” มาติดตั้งก่อน
Code ซ่อนเครดิต nitropack
jQuery(document).ready(function(){
setTimeout(function(){
//var tag_new = jQuery(“template”).eq(38).attr(“id”);
var tag_new = jQuery(“template”).last().attr(“id”);
console.log(tag_new);//alert(tag_new);
jQuery(“#” + tag_new).css(“display”, “none”);
jQuery(“#” + tag_new).next().next().css(“display”, “none”);
}, 100);});
ที่มา เคยลงไว้ในนี้ครั้งแรก https://www.krabi.today/index.php/topic,13770.0.html
wp-rocket เร่งความเร็วเว็บได้ดีแค่ไหน
ส่วนตัวผมว่าดีหมด (รึเพราะจ่ายเงิน) แต่ข้อเสียก็มีคือ
- ใช้ได้ 1 เว็บต่อ 1 ID
แต่สามารถเปลี่ยนเว็บได้โดยการเข้าไปแก้ไขในระบบเค้า - ถ้าจะเสริมตัวอื่นเช่น CDN ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
- ใช้ได้ปีต่อปี ถ้าไม่ต่ออายุ ก็ update ไม่ได้ อยาก update ก็ต้องต่ออายุ รวมไปถึงการ Support ต่างๆ ด้วย
แต่โดยรวมถือว่าคุ้ม มันสามารถใช้กับเว็บ Woocommerce ได้ดี ใช้ได้กับเว็บที่ลงโฆษณาได้ดี โหลดเร็ว เวลาเรา update เนื้อหามันจะตามไป update หน้าให้หมด แถมยังสามารถ cache แบบ Optimize CSS delivery ด้วย
Optimize CSS delivery คือการเข้าไปตั้งค่าในแต่ละหน้าว่าต้องการ cache ส่วนไหนเป็นพิเศษในกรณีค่า speed web มันสูงในบางจุด
แต่ NitroPack มันแคชให้ทั้งยวง แล้วเวลาเรา update เนื้อหามันไม่ค่อย update ตามต้องมากดล้างเองอยู่บ่อยๆ ยิ่งถ้าพ่วงกับ Cloudflare ด้วยยิ่งหนัก ต้องเข้าไปล้าง cache มันทุกจุด ต้องไปลง plugin อื่นเพิ่มเพื่อใช้งานเรื่องการล้าง cache ในที่ต่างๆ วุ่นวาย
มีให้แทรก code สำหรับปรับปรุงความเร็วและการทำงานในบางจุด แต่สามารถแทรกได้ใน plugin เลยไม่ต้องลงอะไรเพิ่ม ใน plugin จะบอกเองว่าควรเอา code ที่มันให้มาไปแทรกตรงไหน เพื่อให้เว็บเราโหลดเร็วขึ้น
สรุปก็เลือกกันตามใจชอบ เพราะข้อมูลด้านบนผมเองก็ทดสอบคนเดียว ไม่ได้อ้างอิงสถิติใดๆ จากของใคร บางคนอาจชอบไม่เหมือนกันกับผมก็ได้ สำหรับผมเองก็ใช้ทั้งสองตัว คือถ้าเว็บไหนเป็นร้านค้าและลง ads ด้วยใช้ wp-rocket แต่ถ้าเว็บไหนไม่ได้ลง ads ใช้ nitropack
จะมีเว็บนี้ไม่ได้เป็นร้านค้า แต่ใช้ nitropack เพราะฟรี แถม wp-rocket ที่ซื้อมาก็ไม่เหลือแล้ว ฮา..
สถิติการรีวิวล่าสุด
คุณก็รีวิวบทความเราได้ แค่แชร์ แนะนำ หรือบอกต่อให้กับเพื่อนคุณ 💚
สรุปข่าวเด่นประเด็นร้อน
เทคโนโลยี เล่าความผ่านเว็บ
เทคนิคการใช้ AI พัฒนาเว็บไซต์
ตั้งแต่โดน facebook แบนบัญชี ผมก็มีเวลาว่างเยอะ และผมใช้เวลาตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ พัฒนาเว็บไซต์นึง ด้วยการใช้ AI มาพัฒนาทั้งระบบไปด้วยกัน จนทำให้เว็บข่าวของผมติดอันดับ (โคตรโม้เลย)
อ่านเรื่องนี้ต่อเล่าความผ่านเว็บ
โดนแบนจาก Facebook แล้วไงต่อ?
ไม่มีใครเตือนว่าการโดน Facebook แบน จะทำให้รู้สึกยังไง แต่พอเกิดขึ้นจริง มันก็เงียบกว่าที่คิดไว้เยอะ สิ่งที่จะต้องทำหลังจากนี้คืออะไร ไปต่อหรือพอแค่นี้
อ่านเรื่องนี้ต่อเล่าความผ่านเว็บ
โดน Facebook แบน ID โดยไม่ทราบสาเหตุ
แบนแบบไม่รู้สาเหตุ แบนแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ห่วงกลุ่มที่มีสมาชิกกว่าแสนคน กับเพจที่พ่วงกับเว็บอีก 4-5 เพจ รอวันปลิว มีแจ้งให้อุทธรณ์ผ่านทางเมล์ ให้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ มีเวลา 180 วันก่อนโดนลบทิ้ง ให้ตายเหอะ
อ่านเรื่องนี้ต่อท่องเที่ยว
หาดคลองม่วง สงบแบบจริงจัง
หากอยากสงบแบบจริงจัง แนะนำให้ไป หาดคลองม่วง จังหวัดกระบี่ หาดที่หลายคนยังไม่รู้จัก บางคนเคยมาแต่ไม่รู้ว่าหาดอะไร
อ่านเรื่องนี้ต่อบทความ SEO
การทำ SEO ในปี 2024-2025 ถึงจะล้าสมัยแต่ใช้งานได้อยู่
ทำ SEO ในปัจจุบัน ไม่ต้องเยอะ แค่เปลี่ยนเนื้อหาให้เข้ากับสถานการณ์ ให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น แค่นี้คือจบ
อ่านเรื่องนี้ต่อเล่าความผ่านเว็บ
ช่วงนี้มีแต่ข่าวน้ำท่วม
เบื่อนะ ช่วงนี้มีแต่ข่าวน้ำท่วม ทั้งที่ข่าวมันก็ซ้ำๆ กันในหลายสำนัก เปิดทีวีมาเจอช่องข่าวต่าง ๆ รายงานข่าวเดียวกัน สถานที่เดียวกัน
อ่านเรื่องนี้ต่อข่าวสารจาก forum และกระดานสนทนา ประกาศ แจ้งข่าว เรื่องราวแบ่งปัน
SEO ขั้นพื้นฐาน Step by Step ตอน 4 Links
SEO พื้นฐาน สำหรับมือใหม่ ตอนที่ 4 ว่าด้วยเรื่องของการวาง Links ในเนื้อหา โดยเฉพาะ ในบทความภาษาไทย
ทางลัดสู่การทำ SEO
หลายเดือนก่อนประมาณปีใหม่ไม่ไกลจากนั้นมาก ผมร้อนวิชาที่ว่าด้วยการโปรโมทเว็บไซต์ด้วยตัวเอง ผ่านช่องทางหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการใช้บริการ blogspot เนื่องจากไฟแรงร้อนวิชาหลังจากอ่าน e-book หลายเล่ม และอยากทดลองทำเองว่าจะได้จริงหรือไม่